ดาวโจนส์ปิดบวก 331.99 จุด ความหวังด้านการค้าสหรัฐฯ-จีนหนุนตลาด

IQ> ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 331.99 จุด ความหวังด้านการค้าสหรัฐฯ-จีนหนุนตลาด
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 68)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (16 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการทำข้อตกลงระงับเก็บภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ย่ำแย่ลงก็ตาม
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,654.74 จุด เพิ่มขึ้น 331.99 จุด หรือ +0.78%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,958.38 จุด เพิ่มขึ้น 41.45 จุด หรือ +0.70% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,211.10 จุด เพิ่มขึ้น 98.78 จุด หรือ +0.52%
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 3.4%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 5.3% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 7.2%
ในบรรดาหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น โดยกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มเดียวที่ลดลง 0.18% ส่วนกลุ่มที่ทำผลงานได้ดีที่สุดคือกลุ่มเฮลท์แคร์ที่เพิ่มขึ้น 1.96% หลังจากปรับตัวผันผวนในสัปดาห์นี้
ตลาดปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนมองข้ามการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนพ.ค.ร่วงลง ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อในช่วง 1 ปีข้างหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 7.3% จาก 6.5% ในเดือนเม.ย.
ดัชนีหลักทั้ง 3 ตัวปิดบวกได้ในรอบสัปดาห์นี้ โดยได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นอย่างมากเมื่อวันจันทร์ หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ และจีนตกลงหยุดสงครามการค้าชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศข้อตกลงการค้าทวิภาคี
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของตลาดในวันศุกร์เป็นแรงบวกต่อเนื่องจากการคลี่คลายความขัดแย้งด้านการค้า โดยตลาดมีความหวังอย่างระมัดระวังกับท่าทีที่อ่อนลงเกี่ยวกับการค้า แต่ยังรอดูว่าสุดท้ายแล้วสหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการภาษีไปในทิศทางใด
นักลงทุนยังจับตาความชัดเจนเรื่องนโยบายภาษีของสหรัฐฯ หลังร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถผ่านขั้นตอนสำคัญในสภาคองเกรสได้ เนื่องจากสมาชิกพรรครีพับลิกันสายแข็งเรียกร้องให้มีการตัดงบประมาณลงอีก ซึ่งถือเป็นอุปสรรคทางการเมืองที่ไม่คาดคิดสำหรับผู้นำสหรัฐฯ
หนึ่งในหุ้นที่ช่วยหนุนดัชนีมากที่สุดคือหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป (UnitedHealth Group) ที่ฟื้นตัวพุ่งขึ้น 6.4% ในวันศุกร์ หลังร่วงหนัก 8 วันติดต่อกัน โดยนักลงทุนจับตาการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ของบริษัท หลังมีรายงานจากวอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า บริษัทอยู่ระหว่างการถูกสอบสวนคดีอาญาโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
สำหรับหุ้นรายตัวอื่น ๆ นั้น หุ้นแอพพลายด์ แมททีเรียลส์ (Applied Materials) ร่วง 5.3% หลังบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์รายนี้รายงานรายได้ไตรมาส 2 ต่ำกว่าคาด
หุ้นเวอไรซอน คอมมิวนิเคชันส์ (Verizon Communications) เพิ่มขึ้น 1.7% หลังจากคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (FCC) อนุมัติให้เวอไรซอนซื้อกิจการไฟเบอร์ออปติกอินเทอร์เน็ตของฟรอนเทียร์ คอมมิวนิเคชันส์ (Frontier Communications) มูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐได้ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทต้องยุติโครงการด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม (DEI)
โดย กัลยาณี ชีวะพานิช
✍ คอมเม้นต์ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น (ช่องกรอกจะปรากฎเมื่อล็อกอินแล้ว)
✍ คอมเม้นต์จะปรากฎเมื่อได้รับอนุมัติจากผู้ดูและระบบ (มีระบบแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ดูแลระบบตรวจสอบโดยเร็ว)
✍ กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพ